ReadyPlanet.com


เปรียบเทียบ LED ปริ้นเตอร์ VS Laser ปริ้นเตอร์


 

                     สำหรับ เทคโนโลยี LED Printer เพิ่งถูกนำมาใช้ในการผลิตปริ้นเตอร์รุ่นใหม่ๆ  ซึ่งนำมาแทนเทคโนโลยีเลเซอร์ แบบเดิม (Laser Printer) ซึ่งเทคโนโลยีเดิมมีข้อจำกัดต่างๆมากมายทั้งเรื่องขนาดของเครื่อง และความเร็วในการพิมพ์งาน  ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีหลากหลลายค่าย พัฒนาเทคโนโลยี LED ขึ้นมาใช้ พร้อมกับจุดเด่นด้านงานพิมพ์ที่ดีกว่าเดิม ทั้งความคมชัด ประหยัดเนื้อที่ในการออกแบบให้เล็กลง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย

 

(ตัวอย่างเทคโนโลยีของ Brother  ซึ่งนำมาใช้กับรุ่น HL-3040/4040 )

                 ทั้งสองเทคโนโลยีเป็นการใช้หลักการพิมพ์งานเหมือนๆกันโดยใช้เทคนิค Electro Photo graphy ซึ่งเป็นการใช้ประจุไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ที่ต่างคือเทคโนโลยีการกำเนิดแสงภายในเครื่อง โดยเครื่องพิมพ์แบบ LED นั้น ใช้หัวพิมพ์ LED หรือไดโอดเปล่งแสง (Light Emitting Diode) ยิงลำแสงโดนตรงผ่านเลนส์ ตรงไปสู่วัสดุที่ให้ในการสร้างภาพโดยตรง ไม่มีชิ้นส่วนใดในตัวเครื่องเกิดการเคลื่อนไหว ทำให้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทืยบกับการทำงานในระบบ เลเซอร์ทั่วไป ที่ใช้หลักการสะท้อนแสงที่ยิงมาจากเลเซอร์ไดโอด ซึ่งมีพื้นฐานในการทำงานโดยอาศัยส่วนประกอบของชิ้นส่วนหลายชิ้น ได้แก่ หัวยิงลำแสง กระจกหมุนสะท้อนลำแสง และเลนส์ ซึ่งการทำงานนั้นมีหลายส่วนที่ต้องเคลื่องไหว  (ตามวีโอด้านล่าง) 

* สังเกตว่าเทคโนโลยี LED ไม่มีหัวโพลีก้อนเหมือน Laser ที่ต้องเคลื่อนไหว

                  การพิมพ์สีแบบเครื่องพิมพ์ LED ประกอบด้วยหัวพิมพ์ LED สีละหนึ่งชุด แต่ละชุดมีจำนวนหลอด LED มากถึง 80,000 หลอด รวม 4 สี หลอด LED จะยิงแสงผ่านเลนส์โฟกัสแสง ตรงไปสู่วัสดุที่ใช้ในการสร้างภาพ(Image Drum) โดยตรง โดยไม่มีชิ้นส่วนใดๆ ในตัวเครื่องเกิดการเคลื่อนไหว

   

* ตัวอย่างวีดีโอ เทคโนโลยี LED ของ Lexmark

  หลักการทำงานของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ แบบเดิม !!

           การทำงานของเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะใช้หลักการ สะท้อนแสงไปสู่ Image Drum ในกรณีทื่เป็นเป็นเครื่องพิมพ์สีแบบ Single Pass การพิมพ์สีแต่ละสีประกอบด้วย หัวยิงเลเซอร์ไดโอด 1 ชุด รวม 4 ชุด เลเซอร์ไดโอดจะยิงแสงเลเซอร์ไปยังกระจกโพลีกอน ที่หมุนด้วยความเร็วสูง สะท้อนผ่านเลนส์โฟกัสแสงไปสู่กระจก สะท้อนไปยัง Image Drum แต่ละสีต่อไป ขณะที่เครื่องพิมพ์แบบ Four Pass จะประกอบด้วยหัวยิงเลเซอร์ไดโอด และชุดกระจกโพลีกอนเพียงชุดเดียว

   ขั้นตอนการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ เลเซอร์

1. เลเซอร์ไดโอดยิงแสงเลเซอร์
2. ผ่านสู่เลนส์โฟกัสลำแสงให้มีขนาดเหมาะสม
3. กระจกสะท้อนแสงเลเซอร์
4. กระจกหักเหลำแสง
5. กระจกโพลีกอนหมุนด้วยความเร็วสูง และเป็นปัจจัยกำหนดความเร็วการพิมพ์
6. แสงเลเซอร์ถูกปรับให้เข้ากับจังหวะการพิมพ์ที่ถูกต้อง
7. แสงเลเซอร์ถูกปรับแล้ว สะท้อนจากกระจกโพลีกอน ถูกหักเหลงสู่ DRUM

       ขั้นตอนมากมายเหล่านี้ทำให้เทคโนโลยีพิมพ์งานช้ากว่า LED !!!

ทำไมต้อง LED ?

ขนาดลำแสงที่เล็กกว่า
    LED สามารถสร้างลำแสงได้เล็กถึง 25 ไมครอน ในขณะที่ Laser สามารถสร้างลำแสงได้ 65 ไมครอน หรือ Blue Laser ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งมีต้นทุนสูงก็สามารถ ทำให้เล็กได้แค่ 35 ไมครอน

สามารถปรับความเข้มของแสงได้
   LED สามรถปรับระดับความเข้มของแสงเพื่อสร้าง Grey Scale ได้ถึง 32 ระดับ เพื่อภาพที่มีการไล่ระดับสีที่มากกว่า ในขณะที่ Laser ไม่สามารถทำได้

ความทนทานในการใช้งาน
LED สร้างประจุลงบนชุดสร้างภาพโดยใช้แหล่งกำเนิดแสงมากกว่า 30,000 แหล่ง ในขณะที่ Laser ใช้แหล่งกำเนิดแสงเพียง 1 แหล่ง (หรือ 2 แหล่งในเครื่องที่มีราคาสูง) แต่ใช้กระจก Polygon ในการหักเหแสงเพื่อสร้างประจุลงบนชุดสร้างภาพ Polygon ที่ต้องหมุน ตลอดเวลาและสึกหรอเมื่อใช้ไปนานๆ

ผงหมึกที่มีขนาดเล็กกว่า
เพื่อตอบสนองระบบการสร้างภาพที่ สามารถสร้างจุดได้เล็กถึง 25 ไมครอน OKI จึงได้พัฒนาผงหมึกให้มีขนาดเล็กลงและมีส่วนผสมของขึ้ผึ้ง (Wax) เพื่อให้ได้งานพิมพ์ที่คมชัด สวยงามเหมือนจริงทั้งรูปภาพและตัวอักษร

* แสดงภาพ เปรียบเทียบความละเอียดระหว่าง LED และ Laser Printer

 

*ข้อมูลบางส่วนจาก http://www.moregate.co.th



ผู้ตั้งกระทู้ Admin โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-30 13:55:15


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2217223)
LED เป็นระบบที่เคยใช้มาก่อนระบบเลเซอร์ครับ แต่ช่วงหลังกลับมานิยมใหม่ เพราะลดขนาดของเครื่องพิมพ์ให้ลดลง ความจริงแล้วระบบ  LED เป็นระบบที่เก่าและแก่มากครับ แต่กลับมาอีกครั้ง
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนพัฒน์ (nowtoner-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-09-16 23:51:25


ความคิดเห็นที่ 2 (2268991)

The video was really good. I learned a lot from it. Thanks for sharing.

Trigeminal Neuralgia Surgery

ผู้แสดงความคิดเห็น Trigeminal Neuralgia Surgery วันที่ตอบ 2012-04-25 16:07:57


ความคิดเห็นที่ 3 (2305005)
แล้วสาเหตุที่หยุดใช้แล้วกลับนำมาใช้ใหม่เพราะอะไรช่วยชี้แจงหน่อย
ผู้แสดงความคิดเห็น Stone hill วันที่ตอบ 2012-10-02 12:37:24


ความคิดเห็นที่ 4 (2372334)

ทำทำไม

ผู้แสดงความคิดเห็น ทำทำไม วันที่ตอบ 2013-06-17 10:45:30


ความคิดเห็นที่ 5 (4071745)
cartierbraceletlove I just want to tell you that I am just beginner to blogging and site-building and honestly loved you’re web site. Probably I’m want to bookmark your blog post . You surely have incredible article content. Regards for sharing your web site. falso bracciale cartier http://www.mercibassocosto.net/
ผู้แสดงความคิดเห็น falso bracciale cartier (nnquvb-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-09-15 01:54:46


ความคิดเห็นที่ 6 (4082062)
Thanks for any other excellent post. The place else may just anybody get that type of info in such a perfect approach of writing? I have a presentation next week, and I am on the look for such information.| cartier love bracelet rose gold copy http://www.thislovebangle.cn/cartier-love-bracelet-pink-gold-replica-b6035616-p-267.html
ผู้แสดงความคิดเห็น cartier love bracelet rose gold copy (fjfvwm-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2016-10-13 14:09:38


ความคิดเห็นที่ 7 (4224967)

 เหตุผลที่นำแอลอีดีมาใช้ใหม่ (เดาล้วนๆ) 1.ราคาถูกลง 2.เทคโนโลยีสูงขึ้น มีหลอดแอลอีดีครบทุกเฉดสี

ผู้แสดงความคิดเห็น mathu_bbb (mathu_bbb-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2017-11-12 13:05:08



[1]